เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ยังวิกฤตปริมาณน้ำกักเก็บน้อยสุดตั้งแต่สร้างมา วอนประชาชนประหยัด
วันนี้ 4 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฉลิมศักดิ์ ทักษาดิพงษ์ ผู้อำนวยการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ปัจจุบันเขื่อนแควน้อยฯ มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ทั้งหมด 295 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 31
โดยแบ่งเป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 252 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 28 และน้ำตายอีก 43 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 3 ซึ่งถือว่าปริมาณน้ำกักเก็บดังกล่าวมีระดับน้อยที่สุดตั้งแต่สร้างเขื่อนมา เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทางเขื่อนยังดำเนินการระบายน้ำลงแม่น้ำแควน้อย รวมถึงลุ่มเจ้าพระยา วันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้สำหรับอุปโภคบริโภค ควบคู่กับรักษาระบบนิเวศ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีเพียงพอไปจนถึงเดือนกรกฎาคม แน่นอน
อย่างไรก็ตาม นายเฉลิมศักดิ์ ระบุว่า ปัจจุบันทางเขื่อนเอง ได้งดการปล่อยน้ำเพื่อสนับสนุนด้านการเกษตรกรรมไปแล้ว โดยปิดการระบายลงคลองต่าง ๆ ทั้งหมด เพื่อสำรองน้ำไว้กินใช้ตลอดฤดูแล้ง จึงอยากฝากให้ประชาชนทุกคนช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด และเกิดประโยชน์ที่สุด
ในส่วนของสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลัก ในวันนี้ (4 เม.ย.) มีดังนี้
เขื่อนภูมิพล ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 595 ล้าน ลบ.ม. หรือ 6 % ไม่มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ ปริมาณน้ำระบาย 5 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 119 วัน
เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 1,161 ล้าน ลบ.ม. หรือ 17 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 1.21 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำระบาย 10 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 116 วัน
เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 252 ล้าน ลบ.ม. หรือ 28% ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 0.22 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำระบาย 1.04 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 242 วัน
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 301 ล้าน ลบ.ม. หรือ 31 % ไม่มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ ปริมาณน้ำระบาย 1.77 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 170 วัน
ขอบคุณ INN,กรมชลประทาน
ติดตามข่าวที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ news.mthai.com
เช็คด่วน! พื้นที่ไหนบ้างใกล้วันหมดน้ำ
กรมชลประทานเผย ควรเฝ้าติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด หลังระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ 23 มี.ค. มีการรายงานศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยข้อมูลถึงปริมาณน้ำในเขื่อนหลักทั่วประเทศ ซึ่งต้องเฝ้าติดตามสถานณ์อย่างใกล้ชิด ทางทีมข่าว MThai News จึงได้จัดทำภาพ Infographics ปริมาณน้ำใน 7 เขื่อน ดังนี้
ในส่วนของสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลัก ในวันนี้ (23 มี.ค.) มีดังนี้
เขื่อนภูมิพล ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 675 ล้าน ลบ.ม. หรือ 7 % ไม่มีน้ำไหลลงอ่าง ปริมาณน้ำระบาย 5 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 135 วัน
เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 1,272 ล้าน ลบ.ม. หรือ 19 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 2.57 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำระบาย 10 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 127 วัน
เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 266 ล้าน ลบ.ม. หรือ 30% ไม่มีน้ำไหลลงอ่าง ปริมาณน้ำระบาย 1.04 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 255 วัน
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 331 ล้าน ลบ.ม. หรือ 35 % ปริมาณน้ำระบาย 1.73 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 191 วัน
ติดตามข่าวที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ news.mthai.com
กรมชลฯ ยอมรับปีนี้แล้งหนัก หวั่นไร้น้ำเล่นสงกรานต์
อธิบดีกรมชลประทาน ยอมรับปีนี้แล้งหนัก น้ำอุปโภคเพียงพอ แต่ทำนาปรังไม่มีน้ำแน่ ขณะที่ ขอนแก่น หวั่นไม่มีน้ำเล่นสงกรานต์ เหตุจากน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ลดลง มีน้อยสุดรอบ 20 ปี
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (4 มี.ค. 59) นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งทั่วประเทศว่า ภาพรวมในปีนี้ถือว่าแล้งหนัก เพราะปริมาณฝนที่ตกเหนือเขื่อนมีน้อย แต่กระนั้นก็เชื่อว่าปริมาณน้ำในเขื่อนที่มีอยู่เพียงพอต่อการใช้อุปโภคและบริโภคหากมีการจัดสรรน้ำที่ดี และมีการงดทำนาปรังที่ใช้น้ำมากในช่วงนี้
ด้านนายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ ระหว่างการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินของจ.ขอนแก่น ว่า ขณะนี้น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์มีระดับเพียง 24.43% ของปริมาณการกักเก็บน้ำทั้งหมด ซึ่งนับว่าต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี
และจากสถานการณ์ดังกล่าว อาจทำให้หยุดการผลิตพลังงานไฟฟ้า รวมถึงส่งผลทำให้ชาว จ.ขอนแก่นไม่มีน้ำเล่นสงกรานต์ เพราะไม่มีน้ำดิบมาผลิตเป็นน้ำประปาให้ประชาชนใช้ ดังนั้นการแก้ปัญหาข้างต้นก็ควรช่วยกันประหยัดน้ำ ใช้เท่าที่จำเป็นจนกว่าจะมีฝนตกลงมาอีก
เกาะติดภัยแล้ง : กรมชลฯ เผยสถานการณ์แล้งทางภาคเหนือยังน่าเป็นห่วง ชี้มีปริมาณเหลือผลิตใช้ได้ถึงเดือน พ.ค.นี้
เมื่อวัน 4 ก.พ. ที่ผ่านมา กรมชลประทานได้ออกมาประกาศให้ทุกภาคส่วนใน จ.เชียงใหม่ ร่วมใจกันประหยัดน้ำอย่างจริงจัง และให้การใช้น้ำเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนที่ใช้ผลิตน้ำประปา ในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย เตือนหากมีการนำน้ำจากเขื่อนไปใช้ในกิจกรรมอื่นๆ มีโอกาสเสี่ยงขาดน้ำสูง
ทั้งนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ อยู่ในเกณฑ์น้อยมาก เนื่องจากในช่วงฤดูฝนปี 2558 ที่ผ่านมา มีปริมาณฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนต่างๆอยู่ในเกณฑ์น้อยตามไปด้วย โดยเฉพาะเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล วันวานนี้ (4 ก.พ. 59) มีปริมาณน้ำเหลืออยู่เพียง 63 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 24 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำที่นำมาใช้การได้เพียง 41 ล้านลูกบาศก์เมตร
ถือว่าอยู่ในเกณฑ์น้อยมาก ไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนการใช้น้ำในภาคการเกษตรได้ และจำเป็นต้องควบคุมการใช้น้ำอย่างเคร่งครัด เฉพาะการใช้น้ำเพื่อผลิตน้ำประปาของเมืองเชียงใหม่ และจ.ลำพูน เท่านั้น คาดว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่ จะใช้ได้จนถึงเดือน พ.ค.นี้ จึงขอให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย
ในส่วนของสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลัก ในวันนี้ (5ก.พ.) มีดังนี้
เขื่อนภูมิพล ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 961 ล้าน ลบ.ม. หรือ 10 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 0.34 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำระบาย 5 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 192 วัน
เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 1,666 ล้าน ลบ.ม. หรือ 25 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 3.83 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำระบาย 10 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 167 วัน
เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 316 ล้าน ลบ.ม. หรือ 35% ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 0.38 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำระบาย 1.04 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 304 วัน
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 439 ล้าน ลบ.ม. หรือ 46 % ปริมาณน้ำระบาย 1.75 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 251 วัน
ที่มา กรมชลประทาน
_________________________________________________________________________________________________
เกาะติดภัยแล้ง : กรมชลฯ เผยสถานการณ์แล้งยังน่าเป็นห่วง ชี้ปริมาณน้ำที่เหลือใช้น้อยกว่าปี 58
วันนี้ 1 ก.พ. กรมชลประทานราชงานสถานณ์น้ำประจำวัน โดยมีข้อมูลภาพรวมในแต่ละอ่างเก็บน้ำ ซึ่งสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 40,452 ลIาน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 54 (ปริมาตรน้ำใช้การได้ 16,649 ลIาน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 33) ปริมาตรน้ำในอ่างฯ เทียบกับปี 2558 (46,001 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 62) น้อยกว่าปี 2558 จํานวน 5,549 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ จํานวน 18.83 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบาย จํานวน 59.42ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้อีก 34,336 ล้าน ลบ.ม.
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่ ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 38,095 ลIาน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 54 (ปริมาตรน้ำใช้การได้ 14,592 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 31) ปริมาตรน้ำในอ่างฯ เทียบกับปี 2558 (43,158 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 61) น้อยกว่าปี 2558 จํานวน 5,063 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ จํานวน 14.23 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบายจํานวน 50.15 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้อีก 32,275 ล้าน ลบ.ม. ในช่วงฤดูแล้งตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2558 ถึง ปัจจุบัน ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯสะสม
จํานวน 2,793 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบายสะสม จํานวน 4,926 ลIาน ลบ.ม.
ในส่วนของสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลัก มีดังนี้
เขื่อนภูมิพล ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 986 ล้าน ลบ.ม. หรือ 10 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 2.77 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำระบาย 5 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 197 วัน
เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 1,705 ล้าน ลบ.ม. หรือ 26 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 5.30 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำระบาย 10 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 170 วัน
เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 319 ล้าน ลบ.ม. หรือ 36% ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 0.85 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำระบาย 1.04 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 306 วัน
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 455 ล้าน ลบ.ม. หรือ 48 % ปริมาณน้ำระบาย 1.74 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 261 วัน
ที่มา กรมชลประทาน
__________________________________________________________________________________________________
เกาะติดภัยแล้ง : กรมชลฯ สรุปสถานการณ์น้ำ 5 ปี ปริมาณน้ำลดลงต่อเนื่อง รับ ปีนี้แล้งรุนแรงสุดในรอบ 20 ปี
วันที่ 29 ม.ค.59 นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน แถลงถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาระหว่างปี 2553 – 2558 ว่า ในระหว่างปี 53 – 54 มีปริมาณฝนมากพอสมควร โดยมีน้ำต้นทุน 11,340 ล้านลูกบาศก์เมตร มีการระบายน้ำออก 8,570 ล้านลูกบาศก์เมตร ปี 54 – 55 เกิดภาวะน้ำท่วมหนักโดยเฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา
ซึ่งมีน้ำต้นทุนมากถึง 18,153 ล้านลูกบาศก์เมตร และด้วยความตื่นตระหนกและต้องการสร้างความเชื่อมั่นทางภาคอุตสาหกรรม จึงทำให้มีการระบายน้ำออกไปถึง 14,861 ล้านลูกบาศก์เมตร ปี 55 – 56 มีปริมาณฝนพอสมควร มีน้ำต้นทุน 10,075 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายน้ำออก 8,363 ล้านลูกบาศก์เมตร
และเมื่อปี 56 – 57 น้ำต้นทุนเริ่มมีปริมาณลดลงไปมาก เหลือเพียง 8,153 ล้านลูกบาศก์เมตร และระบายน้ำออก 6,371 ล้านลูกบาศก์เมตร
สืบเนื่องมาจากการสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกข้าวเพิ่มขึ้นจากโครงการรับจำนำข้าว ที่มีการปลูกนาปรังทั้งในและนอกเขตชลประทาน รวม 11 ล้านไร่ ส่วนปี 57 – 58 มีปริมาณน้ำต้นทุนเพียง 6,777 ล้านลูกบาศก์เมตร และระบายน้ำออก 4,147 ล้านลูกบาศก์เมตร
ซึ่งจะเห็นว่าปริมารน้ำลดลงมาจนถึงปัจจุบันในปี 58 – 59 ที่มีน้ำต้นทุนเหลือ 4,247 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีการระบายน้ำออก 2,900 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ในปีนี้ถือว่ามีความแห้งแล้งรุนแรงมากที่สุดในรอบ 20 ปี ซึ่งใกล้เคียงกับสถานการณ์ภัยแล้งเมื่อปี 2537
ในส่วนของสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลัก มีดังนี้
เขื่อนภูมิพล ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 986 ล้าน ลบ.ม. หรือ 10 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 2.77 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำระบาย 5 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 197 วัน
เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 1,705 ล้าน ลบ.ม. หรือ 26 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 3.53 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำระบาย 10.09 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 170 วัน
เขื่อนอุบลรัตน์ ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 319 ล้าน ลบ.ม. หรือ 36% ปริมาณน้ำระบาย 1.04 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 306 วัน
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 455 ล้าน ลบ.ม. หรือ 48 % ปริมาณน้ำระบาย 1.74 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 263 วัน
ที่มา กรมชลประทาน
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ news.mthai.com
MThai News
เกาะติดภัยแล้ง : สถานการณ์ยังน่าเป็นหวัง เขื่อนในภาคเหนือเหลือน้ำใช้เพียง 18 % ภาคอีสานเหลือใช้ 34 %
วันนี้ 28 ม.ค. ทางกรมชลประทานเปิดเผยข้อมูลสถานการณ์น้ำในแต่ละเขื่อนทั่วประเทศ ซึ่งจากสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน พบว่าเขื่อนในภาคเหนือ มีปริมาณน้ำเหลือใช้รวมกัน 3,334 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 18 % จาก 77 แห่ง ขณะที่เขื่อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีปริมาณน้ำเหลือใช้รวมกัน 2,890 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 34 % จาก 277 แห่ง ส่วนของเขื่อนภาคกลาง มีปริมาณน้ำเหลือใช้รวมกัน 580 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 40 % จาก 18 แห่ง ส่วนทางด้านเขื่อนในภาพตะวันตก มีปริมาณน้ำเหลือใช้รวมกัน 4,368 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 32 %
ทางด้านเขื่อนในภาคตะวันออก มีปริมาณน้ำเหลือใช้รวมกัน 1,003 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 58 % จาก 56 แห่ง และเขื่อนในภาคใต้ มีปริมาณน้ำเหลือใช้รวมกัน 4,643 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 66 % อย่างไรก็ตามหากดูในภาพรวมเขื่อนทั้งประเทศ จะมีปริมาณน้ำเหลือใช้รวมกัน 16,818 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 33 %
ในส่วนของสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลัก มีดังนี้
เขื่อนภูมิพล ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 988 ล้าน ลบ.ม. หรือ 10 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 1.32 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำระบาย 5 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 198 วัน
เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 1,711 ล้าน ลบ.ม. หรือ 26 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 3.53 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำระบาย 10.09 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 170 วัน
เขื่อนอุบลรัตน์ ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 109 ล้าน ลบ.ม. หรือ 6 % ปริมาณน้ำระบาย 0.50 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 218 วัน
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำใช้การได้จริง 457 ล้าน ลบ.ม. หรือ 48 % ปริมาณน้ำระบาย 1.74 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลือใช้ได้อีก 263 วัน
_______________________________________________________________________________________
สถานการณ์ภัยแล้งยังน่าเป็นห่วงหลังปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักยังลดลงต่อเนื่อง หากไม่มีน้ำมาสะสมเพิ่มเติม คาดว่าจะเหลือน้ำใช้เพียง 20 วัน
วันนี้ 14 ก.ค. มีการรายงาน ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยข้อมูลถึงปริมาณน้ำในเขื่อนหลักทั่วประเทศ ซึ่งต้องเฝ้าติดตามสถานณ์อย่างใกล้ชิด ทางทีมข่าว MThai News จึงได้จัดทำภาพ Infographics ปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักที่ยังคงน่าเป็นห่วงมาให้ชาว MThai ได้รับชมกัน โดย สถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลัก ในวันที่ 14 ก.ค. 58 มีปริมาณน้ำ ดังนี้
โดยที่เขื่อนภูมิพล ปริมาณใช้การได้จริง 152 ล้าน ลบ.ม. หรือ 2 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 0.98 ล้าน ลบ.ม./วัน น้ำระบาย 8 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลืออยู่ 19 วัน
เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณใช้การได้จริง 318 ล้าน ลบ.ม. หรือ 5 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 5.79 ล้าน ลบ.ม./วัน น้ำระบาย 17.03 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลืออยู่ 18 วัน
เขื่อนแควน้อยฯ ปริมาณใช้การได้จริง 56 ล้าน ลบ.ม. หรือ 6 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 0.76 ล้าน ลบ.ม./วัน น้ำระบาย 1.73 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลืออยู่ 32 วัน
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณใช้การได้จริง 40 ล้าน ลบ.ม. หรือ 4 % ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 0.52 ล้าน ลบ.ม./วัน น้ำระบาย 1.28 ล้าน ลบ.ม./วัน จำนวนวันที่เหลืออยู่ 31 วัน
ปริมาณน้ำรวมกันทั้ง 4 เขื่อน 566 ล้าน ลบ.ม. การระบายน้ำรวม 28.04 ล้าน ลบ.ม./วัน คาดว่าจากปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลัก หากไม่มีปริมาณน้ำมาเพิ่มเติม จะเหลือใช้ประมาณเพียง 20-30 วัน
……………………………………………………………………………………………………………………………………
13 ก.ค. 58
เขื่อนหลักยังวิกฤต อุตุฯชี้ต้องลุ้นฝนถึง 20 ก.ค.
4 เขื่อนหลักลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยายังคงวิกฤต เหลือน้ำใช้ 20-30 วัน ทางด้านเขื่อนแถบอีสานก็ยังคงน่าเป็นห่วง เร่งขุดบ่อบาดาลเพิ่มเติม บรรเทาภัยแล้ง อ่านต่อ…
ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการ์น้ำ กรมชลประทาน
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ news.mthai.com
MThai News